การลงทุนในหุ้น หรือการเล่นหุ้น คนที่รวยมีน้อยกว่าคนที่ขาดทุน/เท่าทุนเสมอ ความเป็นจริงคนที่ลงทุน 100 คน จะมีคนที่สร้างตัวหรือร่ำรวยเพียง 1 -3 คนเท่านั้น นี่คือความจริงในตลาดนี้ ที่บอกว่าในตลาดหุ้นทำไม ความเชื่อถึงสำคัญกว่าความจริง ท่านเคยลองสังเกตหรือเปล่า ทำไมเวลาประกาศ”ข่าวดี” เกี่ยวกับบริษัทนั้น ๆ ทำไมหุ้นตัวนั้นชอบลง และก็มีหุ้นหลายตัว แค่มีข่าวที่เชื่อว่ามันจะดีในอนาคต แต่ข่าวนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นจริง ราคาหุ้นก็มีการขึ้นไปแล้ว นี่คือความเชื่อ เพียงแค่ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามันจะดี ราคามันก็ขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อ ก็เกิดการไล่ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการไล่ซื้อโดยคนทั่วไป หรือเป็นการไล่ซื้อโดยกลุ่มคนที่จงใจ (คนกลุ่มนี้บางคนอาจเรียกว่าเจ้ามือ) ซึ่งคนกลุ่มนี้ ก่อนที่จะมีการไล่ราคา มักจะมีการเก็บสะสมหุ้นในราคาต่ำ ๆ มาเเล้ว

เมื่อคนทั่วไปเข้ามาซื้อแล้วได้กำไร มักจะเกิดการบอกต่อ เกิดการแสดงความเป็นอัจฉริยะ ตามเพจ Facebook หรือว่าตาม LINE กลุ่ม ว่าตัวเองซื้อหุ้นตัวนี้แล้วได้กำไร โชว์กำไรให้คนอื่นอิจฉา มันก็จะเกิดการมีคนอื่น ๆ เข้ามาร่วมวงเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าทุกคนจะได้กำไรกันหมด ทุกคนเข้ามาซื้อแล้วได้กำไร แต่จงระวัง เมื่อมีกลุ่มคนทั่วไปเข้ามาซื้อหุ้นตัวนี้กันมาก เพียงพอที่กลุ่มคนที่จงใจ สามารถขายหุ้นในปริมาณที่เค้าถืออยู่ออกมาได้ คนทั่วไปที่มีกำไรอยู่ สุดท้ายอาจจะติดดอยก็เป็นได้

… หลังจากที่หุ้นลง มักจะมีเหตุผลและข่าวในแง่ลบมา Support เสมอ นี่เป็นเพียงทำให้คนเชื่อว่าบริษัทจะดีในอนาคต ราคาก็สามารถขึ้นไปได้แล้ว

ในทางกลับกัน ถึงแม้บริษัทหนึ่งจะดี มีกำไรโต ได้รับงาน ได้รับโปรเจ็คที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท ถ้าไม่มีคนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป หรือคนที่จงใจ ไม่มาร่วมวงกับหุ้นตัวนี้ ยังไงยังไงหุ้นตัวนี้ก็ไม่สามารถขึ้นได้ ยิ่งโหดร้ายไปกว่านั้น ในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นประเทศไทย เป็นตลาดหุ้นที่ถือว่าเขี้ยวมาก ๆ มักจะมีการทำราคาขึ้นไปเพื่อรับกับข่าวดี คนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือคนที่เวลาจะซื้อหุ้นตัวไหนซักตัว ต้องการคำแนะนำจากคนอื่น ๆ เพราะข่าวดีประกาศ เป็นช่วงเวลาที่เค้าซื้อหุ้น แต่หารู้ไม่ว่า ราคาขึ้นมารับกับเค้าดีหลาย ร้อย% แล้ว สุดท้ายวันที่เค้าซื้อ หรือวันที่ประกาศข่าวดี หุ้นมีการเทขายอย่างหนัก กรณีนี้เห็นได้บ่อยมากในตลาดหุ้นประเทศไทย